Thursday, November 13, 2008

สารเคมีในว่านหางจระเข้2

สารอะโลคูตินและสารอะลอคตินเอ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและสลายสารพิษของเชื้อโรค

สารอะโลมิซินและสารอะโลคูติน สามารถระงับการขยายตัวของเชื้อไวรัสโรคมะเร็งได้

ส่วนสารโพลีแซคคาไรด์ สามารถกระตุ้นการสมานแผลได้

สารที่ได้กล่าวมาข้างต้นนี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง เช่น ทนควาวมร้อน ทนกรด ทนด่างและยังมีขนาดโมเลกุลที่เล็กมาก ดังนั้นสารเหล่านี้จึงมีความสามารถในการซึมผ่านสูงเป็นพิเศษ

ด้วยเหตุนี้ในการรักษาโรคฮ่องกงฟุตซึ่งเป็นโรครักษายาก หากใช้ว่านหางจระเข้รักษาก็จะหายได้โดยง่าย ทั้งนี้เพราะว่านหางจระเข้สามารถวึมเข้าสู่ส่วนลึกของผิวหนังซึ่งยาธรรมดาขาดคุณสมบัติเช่นนี้

ในการรักษาสิวที่เกิดขึ้นตามใบหน้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักยิ่งถ้ารักาด้วยยาปฏิชีวนะนานเข้าเชื้อโรคก็จะเกิดการดื้อยาได้ ก็จะไม่เป็นผลดีในการรักาอีกต่อไป แต่ถ้ารักษาด้วยว่านหางจระเข้ซึ่งมีคุณสมบัติของการสลายพิษของเชื้อโรค การรักษาก็จะได้ผลดีกว่า โดยไม่ทำให้เกิดการดื้อยา

เนื่องจากว่านหางจระเข้มีผลในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ดังนั้นในการรักษาโรคไข้หวัด โรคคางทูม ตุ่มพุพองตามริมฝีปาก และโรคอื่นๆ ที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส หากใช้ว่านหางจระเข้รักษาเมื่อเริ่มมีอาการก็จะได้ผลดีมาก

ถึงแม้ว่า ว่านหางจระเข้ จะมีสรรพคุณมากมายหลายอย่างก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่ยาวิเศษ ที่ใช้รักษาได้สารพัดโรค ฉะนั้นจึงควรทำความเข้าใจอย่างทั่วด้านในสรรพคุณของว่านหางจระเข้เสียก่อนแล้วจึงค่อยนำมาใช้ อย่าใช้อย่างหลับหูหลับตา มิฉะนั้นอาจเป็นอันตราย และเกิดโทษได้

ในการใช้ว่านหางจระเข้ หากได้ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือนายแพทย์บ้างเป็นบางครั้ง ก็ช่วยให้การรักษาโรคได้ผลดียิ่งขึ้น

No comments: