Wednesday, November 5, 2008
ความเป็นมาของว่านหางจระเข้ 1
ลักษณะทั่วไป
ว่านหางจระเข้เป็นต้นพืชที่มีเนื้ออิ่มอวบ จัดอยู่ในตระกูล LILIUM แหล่งกำเนิดดั้งดิมอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปอาฟริกา พันธ์ของว่านหางจระเข้มีมากกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีทั้งพันธ์ที่ขนาดใหญ่มากไปจนถึงพันธ์ที่มีขนาดเล็กกว่า 10 เซนติเมตร
ลักษณะพิเศษ
มีใบแหลมคล้ายเข็ม เนื้อหนา และเนื้อใบมีน้ำเมือกเหนียว ผลิดอกช่วงฤดูหนาว ดอกมีสีต่างๆ กัน เช่น เหลือง ขาว และแดง เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์
ที่มาของชื่อ
คำว่า " อะโล" ( Aloe ) เป็นภาษากรีซโบราณ หมายถึงว่านหางจระเข้ ซึ่งแผลงมาจากคำว่า "Allal" มีความหมายว่า ฝาดหรือขม ในภาษายิว ฉะนั้นเมื่อผู้คนได้ยินชื่อนี้ ก็จะทำให้นึกถึงว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เดิมเป็นพืชที่ขึ้นในเขตร้อนต่อมาได้ถูกนำไปแพร่พันธุ์ในยุโรปและเอเชีย และทุกวันนี้ทั่วโลกกำลังเกิดกระแสนิยมว่านหางจระเข้กันเป็นการใหญ่
การใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิว
มีประวัติความเป็นมานานนับพันปี ก่อนคริสต์ศักราช 333 ปี พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เคยกรีธาทัพไปถึงทวีปอาฟริกา ได้พบว่านหางจระเข้เป็นจำนวนมาก และทรงรับสั่งให้ทำการปลูกอย่างขนานใหญ่ เพื่อใช้เป็นยาสำหรับกองทัพของพระองค์อีกทั้งพระนางคลีโอพัตรา ก็เคยใช้น้ำเมือกจากว่านหางจระเข้เป็นยาบำรุงผิว ทำให้พระนางมีผิวพรรณผุดผ่องดังดรุณีแรกรุ่น ตั้งแต่นั้นมา สรรพคุณของว่านหางจระเข้จึงได้เลื่องลือไปทั่วโลก
Labels:
ว่านหางจระเข้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment